โฆษกตำรวจออกมาอัปเดตความคืบหน้า อาการล่าสุด ของ คฝ. โดนยิง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ชี้สมองตอบสนองดีขึ้น แต่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก ตร. เปิดเผยอาการบาดเจ็บของ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เลทเท็สสัน เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่ถูกยิงจนได่รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา
โดยทีมแพทย์ได้รายงานว่า มีการตอบสนองทางสมองที่ดีขึ้น
หลังการผ่าตัดผู้ป่วย เริ่มรู้สึกตัว ทำตามที่บอกได้ ลืมตาได้เอง ตาซ้ายบวมปิดและมีรอยช้ำ แขนขาข้างขวาอ่อนแรงแต่ขยับได้ในแนวราบ ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจไว้ ระดับความเข้มข้นของเลือดต่ำและค่าความแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
แพทย์จึงให้เป็นเลือดและพลาสม่า เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเลือด ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ไม่พบมีเลือดออกในสมองเพิ่ม แต่ต้องได้รับการเฝ้าระวังอาการทางสมอง เฝ้าระวังการหายใจ เฝ้าติดตามค่าความเข้มข้นของเลือดและความแข็งตัวของเลือด และอาการหลังผ่าตัด รวมถึงการติดเชื้อจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ในหอผู้ป่วยวิกฤต
อัยการสั่ง ฟ้องทนายอานนท์ ม.112 และอีกหลายข้อหา จากกรณีนัดชุมนุมเมื่อวันที่ 14-15 ตุลาคม เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ยื่นฟ้องนายอานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ อายุ 37 ปี หนึ่งในแกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลย ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 83, 91, 112, 358, 385 ฝ่าฝืนข้อกำหนด พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 4, 10, 14, 15, 16, 19, 21, 28, 30,31 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 114, 148 และ พ.ร.บ.จราจรฯ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2550 มาตรา 8 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 19, 57 พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4, 9
การฟ้องร้องครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเมื่อวันที่ 14-15 ตุลาคม ในปี 2563 ระบุว่า จำเลยกับพวกที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า คณะราษฎร 2563 ร่วมกันจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง โดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะพ.ศ.2558 และในการชุมนุมดังกล่าวจำเลยได้กล่าวปราศรัยอันมีลักษณะดูหมิ่นฯ สถาบัน
โดยโจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งนับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.649/2562, อ.1308/2562, อ.287/2564, อ.1629/2564, อ.1668/2564 ของศาลอาญาด้วย
‘ธนกร’ อวย ‘ประยุทธ์’ ผลงานเยอะ ถูกเสนอ แคนดิเดตนายก อีกสมัยไม่แปลก
ธนกร โต้ ส.ส.เพื่อไทย ชี้ ประยุทธ์ ผลงานเยอะ จะถูกเสนอเป็น แคนดิเดตนายก อีกสมัยไม่ใช่เรื่องแปลก พร้อมสวนรัฐบาลชุดก่อนสืบทอดผ่านคนในเครือญาติ
นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทยระบุว่า การที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น ไม่รู้สึกละอายตัวเองบ้างหรือ เพราะ 7 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์สร้างหายนะให้กับประเทศมากแค่ไหน ว่า
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์มุ่งทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนมาตลอดมีผลงานเป็นรูปธรรมมากมาย โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมมีการขยายรถไฟฟ้าครอบคลุมทุกพื้นที่ การจัดสวัสดิการต่างๆ ให้กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเราชนะ โครงการคนละครึ่ง ฯลฯ ซึ่งประชาชนก็รับรู้ได้ จึงสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า ประชาชนต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศต่อไป และหากการเลือกตั้งครั้งหน้าพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าเป็นฉันทามติของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
“พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาแก้ปัญหาประเทศตามความต้องการของประชาชนผ่านผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งต่างจากรัฐบาลในอดีตที่ นพ.ชลน่านคุ้นเคย มีการสืบทอดอำนาจระยะยาวผ่านคนในเครือญาติ ไม่สนใจว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ไม่รู้แกนนำพรรคไหนกันแน่ที่บ้าอำนาจ หลงอำนาจ ถึงขั้นผลักดันกฎหมายแบบสุดซอยก็ยังทำมาแล้ว นพ.ชลน่านน่าจะรู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมแบบนี้เสียก่อน แล้วค่อยมาบอกว่าคนอื่นน่าละอาย”นายธนกร กล่าว
แถลงการณ์ของ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกิดขึ้นภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2565 ถึงโรงเรียนว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบหลักสูตรของโรงเรียนสาธิตมธ. อาจมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์และสถาบัน ซึ่งต่อมา ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาตอบโตนายกผ่านเฟซบุ๊ก Prinya Thaewanarumitkul ความว่า
“ปัญหาหลักของการศึกษาของประเทศไทยคือ #การเอาแต่สอนให้ท่องจำและทำตามอาจารย์สั่ง โดยไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมาก การศึกษาแบบนี้เป็น #การศึกษาแบบอำนาจนิยม ซึ่งนอกจากจะไม่อาจทำให้ประเทศไทยเกิดกำลังทางความคิดและสติปัญญา ไม่อาจพาประเทศไทยไปไหนได้ แล้วก็ยังเป็นการศึกษาที่ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตยเลยครับ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป