Galaxy Z Fold4 คือผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นของ Samsung Galaxy เพื่อเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง และเป็นสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของซัมซุงในปัจจุบัน Galaxy Z Fold4 ผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของซัมซุงเอาไว้ทั้งหมด เพื่อสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่อัดแน่นฟังก์ชั่นการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะกางเครื่องออก พับปิดเอาไว้ หรือใช้ในโหมด Flex[10] ยิ่งไปกว่านั้น Galaxy Z Fold4 ยังเป็นดีไวซ์รุ่นแรกที่จัดส่งโดยมี Android 12L ติดตั้งไว้แล้ว โดยเป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นพิเศษที่ Google สร้างขึ้นเพื่อประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอใหญ่ รวมถึงอุปกรณ์แบบพับหน้าจอได้
ด้านการใช้งาน
การใช้งานแบบมัลติทาสกิ้งบน Galaxy Z Fold4 ทำได้ง่ายดายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่อให้ผู้ใช้งานทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นขณะที่โลดแล่นไปกับทุกวันของชีวิต ทาสก์บาร์ใหม่ (Taskbar)[11]มาในรูปแบบที่คล้ายกับในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ให้เข้าถึง แอปพลิเคชันโปรดและแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย ได้ง่าย นอกจากนี้การใช้งานมัลติทาสกิ้งยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นจากการสั่งงานด้วยท่าทางแบบใหม่ด้วยการปัดหน้าจอ (Swipe Gestures)[12] เปลี่ยนแอปพลิเคชันที่แสดงผลแบบเต็มหน้าจอไปเป็นหน้าต่างป๊อปอัพ หรือแบ่งครึ่งหน้าจอของคุณเพื่อใช้คุณสมบัติมัลติทาส (Multitask) วิธีอื่นๆ อีกมากมาย[13]
ความร่วมมือจาก 3 ยักษ์ใหญ่ของวงการเทคโนโลยี การร่วมมือกันระหว่างซัมซุงกับ Google และ Microsoft ได้ยกระดับการใช้งานมัลติทาสกิ้งขึ้นอีกขั้น โดยแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Google รวมถึง Chrome และ Gmail ต่างรองรับการลากและวาง (Drag-and-Drop) จึงช่วยให้ผู้ใช้คัดลอกและแปะลิงค์ รูปภาพ และอื่นๆ จากแอปพลิเคชันหนึ่งไปยังอีกแอปพลิเคชันหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และในการใช้ Google Meet ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้คนได้มากขึ้นในขณะที่เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมเสมือนจริงต่างๆ รวมถึงการรับชมวิดีโอร่วมกันบน YouTube หรือการเล่นเกมด้วยกันผ่านวิดีโอคอล[14] ในส่วนของ Microsoft แอปพลิเคชัน Office ทั้งชุดและ Outlook ยังสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอแบบพับได้ โดยแสดงข้อมูลบนหน้าจอได้มากขึ้นและมีวิธีในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเติมเต็มประสบการณ์มัลติทาสกิ้งด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน S Pen[15] จึงช่วยให้ขีดเขียนและจดบันทึกได้แม้ในขณะไม่อยู่ประจำที่ โดยมีที่จัดเก็บเพรียวกระชับอยู่ภายในเคสแบบ Standing Cover with Pen[16]
ด้านกล้องของ Galaxy Z Fold4 ถ่ายภาพและวิดีโอได้สวยน่าทึ่ง กับเลนส์มุมกว้างที่ยกระดับสู่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลพร้อมพลังซูม Space Zoom 30 เท่า[17] โหมดกล้องถ่ายภาพหลากหลายแบบ ทั้งภาพแสดงการซูม (Zoom Map) ที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเรียกใช้ได้ในโหมด Capture View การดูภาพสองหน้าจอ (Dual Preview) และการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลัง (Rear Cam Selfie) ล้วนได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้จุดเด่นของรูปลักษณ์ที่พิเศษเฉพาะตัวสร้างความความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น เซ็นเซอร์ที่สว่างขึ้นถึง 23%[18] และการประมวลผลที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้คมชัดสดใสแม้ในเวลากลางคืน
หน้าจอ
คอนเทนต์ต่างๆ ยิ่งดูโดดเด่นเป็นพิเศษบนหน้าจอหลักขนาด 7.6 นิ้ว[19] ด้วยหน้าจอที่สว่างยิ่งขึ้น พร้อมอัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz แบบปรับเปลี่ยนได้เอง[20] และกล้องใต้หน้าจอ (Under Display Camera – UDC) ที่ซ่อนตัวได้เนียนตายิ่งขึ้นด้วยการจัดเรียงพิกเซลแบบ Scatter-type Sub-pixel รูปแบบใหม่ แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดฮิต อาทิ Facebook ได้รับการปรับแต่งให้สร้างประสบการณ์บนหน้าจอขนาดใหญ่ได้อย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อให้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้มากขึ้น หรือหากเปิดแอปพลิเคชันเพื่อบริการความบันเทิงแบบสตรีมมิ่ง เช่น Netflix[21] ก็สามารถใช้โหมด Flex เพื่อรับชมได้โดยไม่ต้องถือเครื่อง
ส่วนในแอปพลิเคชันที่ไม่ได้มีการปรับแต่งเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Flex Mode Touchpad[22] ควบคุมอุปกรณ์ได้โดยไม่ขัดจังหวะการรับชมคอนเทนต์อีกด้วย จึงให้ความแม่นยำในการสั่งหยุด เลื่อนย้อนหลัง และเล่นวิดีโอ หรือซูมเข้าและออกคอนเทนท์ในขณะที่อุปกรณ์อยู่ในโหมด Flex
ประสิทธิภาพการทำงาน เกมต่างๆ ก็เร็วแรงมากขึ้น ด้วยพลังเหลือเฟือของ Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform และเทคโนโลยี 5G ที่เร็วเกินพิกัด[23] นอกจากบานพับซึ่งเพรียวบางยิ่งขึ้น น้ำหนักที่เบาลง และแม้แต่ขอบจอที่แคบลงแล้ว หน้าจอที่กว้างขึ้นยังทำให้ผู้ใช้สั่งงานโต้ตอบกับเครื่องได้ง่ายขึ้นในขณะที่ใช้หน้าจอด้านนอกโดยใช้มือเพียงข้างเดียว[24]
ความคงทนของอุปกรณ์ ซัมซุงเดินหน้าท้าทายจากอุปสรรคบนเส้นทางนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคในด้านความทนทานทั้งภายในและภายนอก โครงสร้าง Armor Aluminum และส่วนปิดบานพับ ตลอดจนกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus®+ แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ใช้บนหน้าจอด้านนอกและกระจกด้านหลัง ทำให้ทั้ง Galaxy Z Flip4 และ Z Fold4 กันน้ำได้ในระดับ IPX8[25] ผู้ใช้จึงคลายความกังวลใจได้หากต้องติดอยู่กลางสายฝน
ดีไวซ์ที่เข้ามาเสริมทัพซีรีส์ Galaxy Z ในครั้งนี้ยังมี Galaxy Buds2 Pro ชุดหูฟังระดับสูงสุดรุ่นใหม่ของซัมซุงที่ให้ประสบการณ์ในการรับฟังแบบไร้สายที่เต็มอารมณ์ที่สุด ด้วยดีไซน์ใหม่เล็กกระทัดรัดและการเชื่อมต่อกับทุกแง่มุมในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยี Hi-Fi 24bit Audio ที่เหนือชั้น[26] ซึ่งให้ช่วงความกว้างของเสียงได้สูง ช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมต่อกับ คอนเทนต์ที่กำลังรับฟังด้วยความละเอียดเสียงที่ชัดกระจ่างสดใส และด้วย Samsung Seamless Codec[27](SSC HiFi) ใหม่ล่าสุด ทำให้สามารถถ่ายโอนเพลงที่มีคุณภาพโดยไม่ต้องหยุด และลำโพงแบบแกนร่วม (Coaxial) สองทางยังให้เสียงที่เต็มอรรถรสกว่าที่เคยอีกด้วย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป