ตำรวจบุกรวบตัว ชาวรัสเซียนับพัน ประท้วงต่อต้านสงคราม 

ตำรวจบุกรวบตัว ชาวรัสเซียนับพัน ประท้วงต่อต้านสงคราม 

เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศรัสเซีย บุกเข้าจับกุมตัว ผู้ชุมนุมหลายพันชีวิตที่รวมตัวแสดงพลัง ประท้วงต่อต้านสงคราม หลังจากรัสเซียเปิดฉากถล่มยูเครน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมประชาชนชาวรัสเซียเกือบ 1,400 คน ที่ออกมาชุมนุมต่อต้านการทำสงครามกับประเทศยูเครน ที่ในขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 137 ศพ และได้รับบาดเจ็บกว่า 300 ราย

โดยกลุ่มเฝ้าสังเกตในประเทศรัสเซียระบุว่ามีประชาชน 1391 คน ใน 51 เมืองถูกจับกุม 

แบ่งเป็นประชาชนในกรุงมอสโกถูกควบคุมตัวมากกว่า 700 คน และในนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองอีกราวๆ 340 คน ซึ่งผู้ชุมนุมได้ตะโกนเรียกร้องให้ยุติสงคราม และยังมีการเรียกร้องให้จับกุม นาย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้อัยการรัสเซียเตือนว่าการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายและจะนำไปสู่ผลกระทบที่เลวร้ายสำหรับผู้ที่ละเมิดคำสั่งดังกล่าว

ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิต จากสงครามกับรัสเซียขยับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 137 ศพ ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 316 ราย

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว อินดีเพนเด้นท์ รายงานว่า นาย โวโลดิมีร์ เซเรนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ออกมาเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการถูกรุกรานโดยกองทัพรัสเซียทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 137 ศพ ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก 316 ราย

โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีทั้งทหารยูเครนและประชาชนรวมเข้าด้วยกัน และทำให้สงครามนี้เป็นสงครามที่รุนแรงที่สุดในทวีปยุโรป นับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง

ในขณะนี้ทางการยูเครนได้เซ็นคำสั่งให้เคลื่อนทัพ และสั่งให้ประชาชนที่สามารถถืออาวุธปืนต้องต่อสู้เพื่อรักษาดินแดน นอกจากนี้ทางการยูเครนยังได้สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนชายที่มีอายุ 18-60 ปีออกจากประเทศ โดยมาตรการดังกล่าวมุ่งเน้นเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ

เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ UN ประกาศสั่งให้ ปูติน นำทหารกลับประเทศ ยุติความขัดแย้ง รัสเซีย – ยูเครน เดี๋ยวนี้ หลังรัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่ม เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เพจเฟซบุ๊กของ สหประชาชาติ หรือ UN ได้โพสต์ข้อความคำพูดของ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ที่ได้ออกมากล่าวถึงการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่นาย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบรัสเซีย ประกาศเริ่มปฏิบัติทางการทางทหารเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

โดยนาย กูเตอร์เรส ระบุว่า “ประธานาธิบดี ปูติน ในนามของมนุษยชาติ ขอให้คุณนำทหารกลับประเทศรัสเซีย และยุติความขัดแย้งเดี๋ยวนี้”

อย่างไรก็ตามหลังจากที่คอมเม้นท์นี้ได้รับการเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ได้ออกมาแสดงความเห็นกันเป็นอย่างมาก ทั้งให้กำลังใจประชาชนที่อาศัยประเทศยูเครน และ ตั้งคำถามการปฏิบัติหน้าที่ของ UN ที่ไม่ยอมยุติความขัดแย้งในก่อนหน้านี้

ยูเครน ปิดน่านฟ้า 160 กม. หลังสงครามกับรัสเซียระอุ

ยูเครน ประกาศปิดการจราจรทางอากาศ ในระยะ 160 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หลังเกิดสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลการจราจรทางอากาศของประเทศยูเครนได้สั่งปิดน่านฟ้าในระยะทางกว่า 160 กิโลเมตรของประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เกิดสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

โดยหน่วยงานกำกับดูแลการจราจาทางอากาศระบุว่าสาเหตุที่สั่งปิดน่านฟ้าเพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่กองทัพจะตั้งใจโจมตีเครื่องบินหรือยิงพลาดไปโดยเครื่องบินของประชาชน

ขณะที่ องค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป ระบุด้วยว่านานฟ้าในรัสเซียและเบลารุส ในรัศมี 185 กิโลเมตรจากชายแดนยูเครนก็เป็นพื้นที่เสี่ยงด้วยเช่นกัน ย้อนกลับไปในปี 2557 ได้เกิดเหตุสลดขึ้นเมื่อ เที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเชียแอร์ไลน์ถูกยิงตรงบริเวณทางตอนเหนือของยูเครน โดยคาดว่าจะถูกขีปนาวุธของกลุ่มกบฏติดอาวุธที่สนับสนุนรัสเซียยิงตก ซึ่งเหตุครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 298 ศพ

เจ้าหน้าที่ตำรวจใน ยูเครน เปิดเผยว่าพบ ผู้เสียชีวิต จากการยิงขีปนาวุธแล้ว 7 ศพ และยังมีผู้สูญหายอีก 19 ราย หลังรัสเซียเดินหน้าประกาศสงคราม เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศยูเครนออกมาเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของกองทัพรัสเซียแล้ว 7 ศพ โดย 6 ศพ เสียชีวิตในเมืองโพดิลสค์ ส่วนอีก 1 ศพเสียชีวิต มาจากเมือง มารียูปอล และมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย และสูญหายอีก 19 ราย

ก่อนหน้านี้ นาย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ประกาศอนุญาตให้เริ่มปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาค ดอนบาส ประเทศ ยูเครน แล้ว โดยผู้นำรัสเซียกล่าวว่ากองทัพรัสเซียไม่มีแผนที่จะยึดครองประเทศยูเครน และขอให้ทหารยูเครนเลิกจะทิ้งอาวุธและเดินทางกลับบ้าน พร้อมขู่ว่าหากเกิดการนองเลือดขึ้น จะเป็นความผิดของประเทศยูเครนเองที่เลือกจะสู้รบกับกองทัพรัสเซีย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป