‘ไทยสร้างไทย’ เปิดตัว ‘จอนนี่ แอนโฟเน่’ ลงสมัคร ส.ส.มีนบุรี

‘ไทยสร้างไทย’ เปิดตัว ‘จอนนี่ แอนโฟเน่’ ลงสมัคร ส.ส.มีนบุรี

ไทยสร้างไทย ได้ประกาศเปิดตัว จอนนี่ แอนโฟเน่ นักแสดง ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.มีนบุรี เผยได้เรียนรู้ว่า รัฐประหารไม่ใช่ทางออกของประเทศ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้แถลงข่าวเปิดตัว นายจอนนี่ แอนโฟเน่ นักแสดง และอดีตสมาชิกวงดนตรีแกรนด์เอ็กซ์ เข้าเป้นสมาชิกพรรค พร้อมประกาศลงสมัคร ส.ส. ในเขตมีนบุรี คันนายาว คลองสามวา และอาสาเข้ามาทำงานแก้ปัญหาความทุกข์ยากที่ประชาชนได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา

นายจอนนี่ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ที่สนใจในปัญหาบ้านเมืองมาโดยตลอด 

ในฐานะคนไทยที่อยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้า และตลอด 7-8 ปีมานี้ ตนก็ได้เรียนรู้และเห็นความจริงแล้วว่า การยึดอำนาจรัฐประหารไม่ใช่ทางออกของประเทศ ประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมเท่านั้น ที่จะเป็นทางรอดของประเทศอย่างแท้จริง ตนตัดสินใจมาทำงานการเมืองเต็มตัว และได้ลงพื้นที่ทำงานมาแล้วประมาณ 3-4 เดือน จึงได้เห็นถึงความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของพี่น้องประชาชน และมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย

เหตุที่ตนเลือกทำงานการเมืองกับพรรคไทยสร้างไทย ก็เพราะเห็นความมุ่งมั่นทุ่มเทของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่ทำงานอย่างหนักทุกวัน เพื่อทำภารกิจสุดท้ายในการสร้างพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นสถาบันการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคนได้มีเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพรรคไทยสร้างไทยมีจุดยืนที่ชัดเจน เป็นพรรคที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยไม่ยอมเป็นที่เหยียบยืนให้เผด็จการ

ซึ่งตนเห็นว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเป็น “ทางเลือกใหม่และเป็นทางรอดของประเทศได้” จึงมาร่วมสร้างพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นเครื่องมือในการทำงานที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชน มุ่งดูแลปัญหาปากท้องและสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับมาแข็งแกร่ง

นายจอนนี่ เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย จะขอใช้ความรู้ความสามารถประสบการณ์ตลอด 36 ปีบนเส้นทางอุตสาหกรรมบันเทิง มาต่อยอดในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจให้กับประเทศ ที่ผ่านมามีโอกาสไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ทราบว่าวัฒนธรรมของไทยมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่เข้าไปมีบทบาทในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ภาพยนตร์ ละคร ของไทยดังไกลไปถึงจีน หรือในอินโดนีเซียก็ถือเป็นตลาดใหญ่ และได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน

แต่เมื่อหันมาดูในประเทศไทย กลับไม่ได้รับการดูแลส่งเสริมจากภาครัฐเท่าที่ควร โดยเฉพาะการส่งเสริมการแสดง การเรียนการสอน ที่หลายกระทรวงของรัฐต้องทำงานบูรณาการร่วมกัน ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จึงจะสามารถขยายตลาดให้เติบโตไปยังต่างประเทศได้ ดังนั้นตนจะขอเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยสร้างไทย ที่จะร่วมผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประกาศดัน “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงครบวงจร” เพื่อเป็นบันไดไปสู่การฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ที่สามารถส่งขายออกไปได้ทั่วโลกได้ ซึ่งจะทำรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะแต่อุตสาหกรรมบันเทิง แต่รวมทั้งสินค้าไทย อาหารไทยทุกชนิดอีกด้วย

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จะมอบหมายให้นายจอนนี่ดูแลงานเรื่องการสร้างโอกาสสร้างรายได้ให้ประเทศ ด้วยนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy เช่น ศิลปะ วัฒนธรรม หนัง ละคร ภาพยนตร์ ศิลปิน เพลง รวมถึงอาหารไทย เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ส่งออก Soft Power ของไทยไปสู่ตลาดโลกทั้งจีน ประเทศในกลุ่ม CLMV อาเซียน รวมทั้งยุโรปและอเมริกา

‘ปริญญ์’ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา สน.ห้วยขวาง ปัดตอบปม ‘แชตหลุด’

ปริญญ์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์-อนาจาร ปัดตอบปม แชตหลุด และ กรณีฟ้องกลับข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับคดีล่วงละเมิดทางเพศ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล และพรากผู้เยาว์

หลังจากที่ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดเมื่อปี 2562 ขณะนั้นผู้เสียหายอายุ 17 ปี เป็นนักศึกษาฝึกงาน อ้างว่าถูกนายปริญญ์ลวนลามโดยใช้มือจับของสงวนทั้งข้างบนและข้างล่าง ระหว่างทางไปที่สถานีรถไฟฟ้า โดยนายปริญญ์อาสาขับรถยนต์ไปส่ง

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามถามกรณีถึงแชตหลุด รวมถึงประเด็นการฟ้องกลับผู้เกี่ยวข้องทางคดีทุกรายในข้อหาแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทว่ามีหลักฐานเป็นอะไรนั้น นายปริญญ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าวกับสื่อมวลชน แต่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ขอเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อน”

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 พ.ค. นี้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นัดให้ นายปริญญ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำอนาจารกับผู้เสียหายอีกราย ขณะนี้มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับนายปริญญ์รวมแล้ว 15 คดี

สำหรับเส้นทางความรักหวานของทั้งคู่ แม้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะไม่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอะไรมากนัก แต่ก่อนหน้านี้หลายคนจะทราบดีว่า อนุทิน ชอบเดินทางไปที่ร้านกาแฟ จ่าจ้า ที่ระนองของ “น้องจ๋า” บ่อย ๆ โดยร้านกาแฟของน้องจ๋าเปิดมาแล้วกว่า 10 ปี ส่วนใหญ่ในร้านจะขายทั้ง เครื่องดื่ม อาหารทั่วไป

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป